ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: มะเร็งช่องปาก (Oral Cancer) (https://doctorathome.com/)
มะเร็งช่องปาก (Oral Cancer) คือมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของช่องปาก เช่น ริมฝีปาก เหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เพดานปากแข็ง และพื้นปากใต้ลิ้น เป็นมะเร็งที่หากตรวจพบและรักษาได้ในระยะเริ่มแรกจะมีโอกาสหายขาดสูง แต่ส่วนใหญ่มักพบเมื่อโรคดำเนินไปมากแล้ว
1. สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงหลัก
มะเร็งช่องปากเกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ในช่องปากอย่างควบคุมไม่ได้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุด ได้แก่:
การสูบบุหรี่และยาสูบทุกชนิด: รวมถึงการเคี้ยวใบยาสูบ ยาเส้น หรือยาฉุน
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มหนักและดื่มเป็นประจำมีความเสี่ยงสูง การใช้แอลกอฮอล์ร่วมกับการสูบบุหรี่ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นหลายเท่า
การเคี้ยวหมาก/หมากพลู: มีสารก่อมะเร็งเจือปน
การติดเชื้อไวรัส: เช่น เชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) สายพันธุ์ 16
บาดแผลเรื้อรังและการระคายเคืองในช่องปาก: เช่น ฟันปลอมที่ไม่พอดี ฟันที่บิ่นหรือผุจนขอบคม และเสียดสีเนื้อเยื่อซ้ำๆ
การได้รับแสงแดดมากเกินไป: โดยเฉพาะมะเร็งที่ริมฝีปาก
สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดี
2. อาการและสัญญาณเตือน
อาการมักไม่ชัดเจนในระยะแรก แต่สัญญาณเตือนที่ควรสังเกตและรีบพบแพทย์หรือทันตแพทย์ทันที หากมีอาการเกิน 2-3 สัปดาห์ โดยไม่หายไป คือ:
แผลในปากที่ไม่หาย: มีลักษณะคล้ายแผลร้อนในหรือตุ่ม แต่ไม่หายภายใน 2-3 สัปดาห์
รอยโรคสีผิดปกติ: มี ปื้นสีขาว (Leukoplakia) หรือ ปื้นสีแดง (Erythroplakia) ภายในปาก (ปื้นสีแดงมีความเสี่ยงสูงกว่า)
ก้อนเนื้อหรือรอยบวม: คลำพบก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมหนาในปาก ลิ้น หรือเหงือก
มีเลือดออกง่าย: มีเลือดออกในช่องปากโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน
อาการชาหรือเจ็บปวด: มีอาการชาหรือปวดเรื้อรังบริเวณใบหน้า ปาก หรือลำคอ โดยไม่ทราบสาเหตุ
ฟันโยกหรือหลวม: ฟันโยกหรือหลุดโดยไม่มีสาเหตุ หรือฟันปลอมเริ่มใส่ไม่พอดี
การทำงานของช่องปากผิดปกติ: กลืนลำบาก เคี้ยวอาหารลำบาก พูดหรืออ้าปากได้น้อยลง
คลำพบก้อนที่คอ: เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ามะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองแล้ว
3. การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกายในช่องปาก: แพทย์หรือทันตแพทย์จะตรวจหาแผล ก้อน หรือรอยโรคที่น่าสงสัย
การตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy): เป็นวิธีเดียวที่ยืนยันการวินิจฉัยได้ โดยการนำชิ้นเนื้อบริเวณที่สงสัยไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
การถ่ายภาพเพื่อประเมินระยะ: เช่น CT scan, MRI, หรือ PET scan เพื่อดูขนาดของมะเร็งและการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่น
วิธีการรักษาหลัก
การรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิด ตำแหน่ง และระยะของมะเร็ง รวมถึงสุขภาพของผู้ป่วย โดยมักใช้วิธีการรักษาแบบผสมผสาน:
การผ่าตัด (Surgery): เป็นวิธีหลักในการรักษามะเร็งช่องปาก โดยการตัดก้อนมะเร็งออกให้หมด อาจรวมถึงการเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอออกด้วย
รังสีรักษา (Radiation Therapy): การใช้รังสีพลังงานสูงทำลายเซลล์มะเร็ง อาจใช้เดี่ยว ๆ หรือใช้ร่วมกับการผ่าตัด
เคมีบำบัด (Chemotherapy): การใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง มักใช้ร่วมกับรังสีรักษา หรือใช้ในกรณีที่มะเร็งลุกลามหรือแพร่กระจายไปแล้ว
การรักษาแบบจำเพาะเจาะจงเป้าหมาย (Targeted Therapy) และภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): เป็นทางเลือกใหม่ที่ใช้ในผู้ป่วยบางราย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและลดผลข้างเคียงต่อเซลล์ปกติ