• Welcome to Phuket forum เว็บบอร์ด ภูเก็ต.
 

ข่าว:

SMF - Just Installed!

Main Menu

กระทู้ล่าสุด

#12
บริการถมดินภูเก็ต – ถมแน่น ถมไว ได้มาตรฐาน พร้อมเริ่มงานก่อสร้าง



ไม่ว่าคุณจะกำลังจะสร้างบ้าน วิลล่า รีสอร์ต หรือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต การ ถมดิน คือขั้นตอนพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ เพื่อเตรียมความพร้อมของพื้นที่ให้แข็งแรง ปลอดภัย และเหมาะสมกับการก่อสร้างในระยะยาว

เราคือทีมผู้เชี่ยวชาญด้านงานถมดินในภูเก็ต พร้อมเครื่องจักรครบชุดและทีมงานที่มีประสบการณ์จริงในพื้นที่
บริการถมดินของเราครอบคลุมอะไรบ้าง?

    ถมที่สร้างบ้าน/รีสอร์ต ตามแบบที่วิศวกรกำหนด

    ปรับระดับดินและเกลี่ยพื้นที่ให้เรียบ

    ถมดินพร้อมบดอัดแน่น ด้วยรถบดขนาดใหญ่

    เลือกวัสดุถมตามสภาพที่ดิน เช่น ดินลูกรัง ดินดาน ดินดำ

    ขนดินเข้า-ออก ด้วยรถดั๊มพ์ 6 ล้อ / 10 ล้อ

    ถมเพื่อป้องกันน้ำท่วม หรือยกระดับพื้นที่ต่ำ

เหมาะสำหรับใคร?

    เจ้าของบ้าน/ที่ดินที่ต้องการเตรียมพื้นที่ก่อนปลูกสร้าง

    เจ้าของรีสอร์ต โรงแรม หรือสำนักงานในภูเก็ต

    โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่

    ผู้รับเหมาโครงการที่ต้องการงานถมแบบเร่งด่วน

จุดเด่นของบริการเรา

    เครื่องจักรครบ รถแบคโฮ รถตัก รถบด พร้อมใช้งาน

    ทีมงานประเมินหน้างานและเสนอราคาฟรี

    ประสบการณ์ถมดินในพื้นที่ภูเก็ตโดยตรง

    รับประกันความแน่น พร้อมออกใบรับรองบดอัด (ถ้าต้องการ)

    ทำงานตรงเวลา โปร่งใส ไม่มีบวกเพิ่ม

วัสดุถมที่ให้เลือก

    ดินลูกรัง – ถมแน่น แข็งแรง นิยมใช้สำหรับฐานก่อสร้าง

    ดินดำ – เหมาะสำหรับปลูกต้นไม้ ทำสวน

    ดินผสม – ถมพร้อมปลูกหญ้า หรือจัดสวนหลังบ้าน

    หินคลุก – ถมถนน หรือพื้นที่รับแรงสูง

พื้นที่ให้บริการในภูเก็ต

    เมืองภูเก็ต

    กะทู้

    ป่าตอง

    ถลาง

    ฉลอง

    ราไวย์

    พร้อมพื้นที่ใกล้เคียงตามตกลง

สรุป

บริการถมดินในภูเก็ต ของเราเหมาะสำหรับทุกโครงการที่ต้องการความแข็งแรง มั่นคง และได้มาตรฐานในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เล็กหรือใหญ่ เราพร้อมให้คำปรึกษา พร้อมคนและเครื่องมือครบ เริ่มงานได้ทันที

    สนใจสอบถามราคาถมดิน หรือให้ทีมงานเข้าประเมินหน้างานฟรี ติดต่อเราได้ทุกวัน
#13
motor show 2025: GEELY EX5 คว้าคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากทั้ง Euro NCAP และ ANCAP พร้อมส่งมอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าทั่วโลก

บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มธนบุรี และ GEELY มีความยินดีอย่างยิ่งในการประกาศว่า GEELY EX5 รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ล่าสุดได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากทั้ง Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) และ ANCAP (Australasian New Car Assessment Program) ซึ่งถือเป็นความสำเร็จระดับสากลที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ GEELY ในการคิดค้นพัฒนายานยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อส่งมอบความคุ้มค่าที่เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้าทั่วโลก

ทั้ง Euro NCAP และ ANCAP ถือเป็นองค์กรระดับโลกด้านการประเมินความปลอดภัยของยานยนต์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยดำเนินการทดสอบการชนและการประเมินด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ครอบคลุมตั้งแต่การปกป้องผู้โดยสารทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตลอดจนผู้ร่วมใช้ถนน และประสิทธิภาพของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (ADAS) โดย GEELY EX5 ได้รับคะแนนความปลอดภัยในระดับสูงสุด 5 ดาวจากทั้งสององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคะแนนระดับความปลอดภัย 5 ดาว ของ ANCAP ยังครอบคลุมทุกรุ่นย่อยของ GEELY EX5 ที่วางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อีกด้วย
     
GEELY EX5 ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (GEA) พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะระดับ 2 (L2 ADAS) ที่ติดตั้งฟังก์ชันความปลอดภัยที่ล้ำสมัย 16 รายการ อาทิ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (LKA) โดยระบบความปลอดภัยเหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อปกป้องความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน เพื่อให้ผู้ขับขี่ GEELY EX5 มีความมั่นใจสูงสุดในทุกการขับขี่

พร้อมกันนี้ GEELY EX5 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังที่เสริมความแข็งแรงในระดับสูง ผสานกับเทคโนโลยีการกระจายแรงกระแทกแบบ "Cloverleaf" ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ GEELY โดยระบบดังกล่าวสามารถช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องห้องโดยสารและลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บของผู้โดยสารในกรณีที่รถเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมั่นใจ
 
ความสำเร็จในครั้งนี้ยังได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ GEELY ในฐานะผู้นำด้านระบบความปลอดภัยและนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะระดับโลก โดย GEELY EX5 ยังเสมือนเป็นตัวแทนของแบรนด์ GEELY ในการสะท้อนศักยภาพและขีดความสามารถในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงสู่เวทีสากลที่เพียบพร้อมด้วยมาตรฐานระดับโลกในทุกมิติ
#14
Doctor At Home: โซริอาซิส/โรคสะเก็ดเงิน/โรคเกล็ดเงิน (Psoriasis)

โซริอาซิส (โรคสะเก็ดเงิน โรคเกล็ดเงิน ก็เรียก) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังชนิดหนึ่งที่มีลักษณะขึ้นเป็นผื่นหรือปื้นและมีเกล็ดสีเงินปกคลุม มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ นานเป็นแรมปีหรือตลอดชีวิต โดยไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ และไม่ติดต่อให้ผู้สัมผัสใกล้ชิด

พบได้ประมาณร้อยละ 1-3 ของคนทั่วไป ชายและหญิงพบได้เท่า ๆ กัน พบได้ในคนทุกวัย มักจะเริ่มมีอาการครั้งแรกในช่วงอายุ 10-40 ปี

ผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 3 พบว่ามีประวัติโรคนี้ในครอบครัว และอาการมักจะกำเริบเมื่อมีสาเหตุกระตุ้น ที่พบบ่อยคือความเครียด

สาเหตุ

โรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด

ในคนปกติ เซลล์ผิวหนังในชั้นหนังกำพร้าจะมีการงอกใหม่จากชั้นใต้ผิวหนังขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวหนังบนชั้นนอกสุดที่แก่ตัวตายและหลุดออกไปเป็นวัฏจักร โดยเซลล์ผิวหนังที่งอกใหม่จะใช้เวลาเคลื่อนตัวจากชั้นใต้ผิวหนังขึ้นมาที่ชั้นนอกสุดของผิวหนังประมาณ 26 วัน

แต่ผู้ที่เป็นโรคนี้ พบว่าบริเวณรอบโรคจะมีการแบ่งตัวหรืองอกของเซลล์ผิวหนังใหม่เร็วกว่าปกติ และใช้เวลาเคลื่อนตัวขึ้นมาที่ชั้นนอกสุดของผิวหนังเพียงประมาณ 4 วัน ทำให้เซลล์ผิวหนังที่แก่ตัวหลุดออกในอัตราความเร็วไม่ทันกับการงอกของเซลล์ใหม่ จึงทำให้เกิดการหนาตัวของผิวหนังกลายเป็นตุ่มหรือปื้น และมีเกล็ดสีเงินปกคลุมซึ่งหลุดลอกออกง่าย

สันนิษฐานว่าความผิดปกติดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความแปรปรวนของระบบภูมิคุ้มกัน กล่าวคือ ลิมโฟไซต์ที่มีชื่อว่า T cells (ปกติทำหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรค) ถูกกระตุ้นให้ทำงานมากเกิน เมื่อเคลื่อนตัวมาที่ชั้นใต้ผิวหนังก็จะทำงานร่วมกับสารอื่น ๆ กระตุ้นให้เซลล์หนังกำพร้าเกิดการแบ่งตัวและเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วผิดปกติ และก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนังทั้งในชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้

กลไกของการเกิดโรคโซริอาซิส เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ ร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่มีลักษณะซับซ้อน

ปัจจุบัน พบว่ามียีนผิดปกติของโรคนี้อยู่มากกว่า 8 ชนิด ผู้ป่วยแต่ละรายจะมียีนผิดปกติที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้มีอาการแสดงได้หลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่มียีนของโรคนี้แฝงอยู่ในร่างกายมีถึง 1 ใน 3 ที่ไม่มีอาการ ซึ่งแสดงว่าน่าจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดอาการ

สาเหตุกระตุ้นที่อาจพบได้ เช่น ความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ การติดเชื้อ (เช่น คออักเสบจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัส การติดเชื้อเอชไอวี) การบาดเจ็บที่ผิวหนัง การใช้ยาปิดกั้นบีตาหรือลิเทียม พบว่าเป็นสาเหตุทำให้โรคกำเริบเป็นครั้งแรก

ส่วนปัจจัยที่ทำให้โรคมีอาการกำเริบซ้ำหรือรุนแรงมากขึ้น เช่น ความเครียด การติดเชื้อต่าง ๆ (รวมทั้งการติดเชื้อเอชไอวี) การแกะเกาขูดข่วนที่ผิวหนัง แมลงกัดต่อย แพ้แดดหรือถูกแดดมาก อากาศหนาวเย็น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์จัด ความอ้วน การใช้ยา (เช่น คลอโรควีน ยาปิดกั้นบีตา ยาต้านเอซ ลิเทียม ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาที่เข้าไอโอไดด์ เป็นต้น) การหยุดยากินสเตียรอยด์ (ที่เคยใช้ได้ผลอยู่ก่อนก็อาจทำให้อาการกำเริบได้)

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยจำนวนมากอาจไม่พบว่ามีสาเหตุอะไรเป็นตัวกระตุ้นก็ได้

อาการ

มีอาการแสดงได้หลายชนิด ซึ่งอาจเป็นชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดร่วมกัน ดังนี้

    โซริอาซิสชนิดปื้นหนา (plaque psoriasis) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด อาการตอนเริ่มกำเริบใหม่ ๆ จะเป็นตุ่มแดง ขอบเขตชัดเจน และมีขุยสีขาว (สีเงิน) อยู่ที่ผิว ต่อมาตุ่มจะค่อย ๆ ขยายออกจนกลายเป็นปื้นใหญ่และหนา และขุยสีขาวที่ผิวจะหนาตัวขึ้นเห็นเป็นเกล็ดสีเงิน (ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงเรียกว่า โรคเกล็ดเงินหรือสะเก็ดเงิน) เกล็ดนี้จะร่วงเวลาถอดเสื้อหรือเดินไปไหนมาไหน หรือร่วงอยู่ตามเก้าอี้หรือที่นอน ถ้าขูดเอาเกล็ดออกจะมีรอยเลือดออกซิบ ๆ

รอยโรคอาจมีอาการคันหรือเจ็บ และอาจดูคล้ายอาการของโรคกลาก ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้

ความผิดปกติดังกล่าวอาจเกิดที่ผิวหนังได้ทุกส่วน แต่มักจะพบที่หนังศีรษะ และผิวหนังส่วนที่เป็นปุ่มนูนของกระดูก ที่พบบ่อยได้แก่ ข้อศอก ข้อเข่า อาจพบที่บริเวณก้นกบ หน้าแข้ง รอยโรคจะมีขนาดต่าง ๆ กัน อาจขึ้นเพียงไม่กี่แห่ง หรือกระจายทั่วไปก็ได้ นอกจากนี้รอยโรคลักษณะดังกล่าวยังชอบขึ้นตามบริเวณผิวหนังที่เคยได้รับบาดเจ็บหรือชอกช้ำ เช่น รอยบาดแผล รอยขีดข่วน เป็นต้น บางรายอาจมีรอยโรคภายในเยื่อบุช่องปาก หรือบริเวณอวัยวะเพศก็ได้

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีรอยโรคลักษณะดังกล่าวเป็นปื้นหนา ๆ ขึ้น ๆ ยุบ ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่หายขาด


โซริอาซิสชนิดปื้นหนา
 

    โซริอาซิสชนิดตุ่มเล็ก (guttate psoriasis) มักพบในคนอายุต่ำกว่า 30 ปี และมักเกิดอาการครั้งแรกหลังจากเป็นคออักเสบจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัส ลักษณะเป็นตุ่มหรือผื่นแดงเล็ก ๆ รูปร่างคล้ายหยดน้ำ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา หนังศีรษะ และมีเกล็ดเงินเล็ก ๆ ปกคลุม อาจเกิดอาการเพียงครั้งเดียวแล้วหายขาดไปเลย หรืออาจกำเริบซ้ำ ๆ โดยเฉพาะเวลามีการติดเชื้อของทางเดินหายใจ รอยโรคอาจดูคล้ายผื่นพีอาร์ ซิฟิลิส ผื่นแพ้ยา


โซริอาซิสชนิดตุ่มเล็ก

    โซริอาซิสชนิดรอยพับ (inverse/flexural psoriasis) ลักษณะเป็นรอยแดง ผิวราบเรียบ มีขอบเขตชัดเจน ไม่มีเกล็ดเงิน พบที่รักแร้ ขาหนีบ ใต้นม ข้อพับต่าง ๆ และรอบ ๆ อวัยวะเพศ มักพบในผู้ที่น้ำหนักเกินหรืออ้วน อาการจะกำเริบมากขึ้นเมื่อมีเหงื่อออกหรือมีการเสียดสี รอยโรคดูคล้ายโรคสังคัง โรคเชื้อราแคนดิดา

    โซริอาซิสชนิดตุ่มหนอง (pustular psoriasis) ซึ่งพบได้น้อย ลักษณะขึ้นเป็นตุ่มน้ำขุ่นแบบตุ่มหนอง โดยไม่มีการติดเชื้อ (sterile pustule) แรกเริ่มจะขึ้นเป็นผื่นแดงเจ็บก่อน หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็จะพุขึ้นเป็นหนอง แล้วหายเองภายใน 1-2 วัน อาการอาจกำเริบ (เป็นวงจร ผื่นแดง-ตุ่มหนอง-ตกสะเก็ด) ได้ทุก ๆ 2-3 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์ อาจเกิดเฉพาะที่ เช่น ฝ่ามือฝ่าเท้า ปลายนิ้วมือนิ้วเท้า หรือกระจายทั่วตัว ซึ่งอาจมีอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย น้ำหนักลด คันมากร่วมด้วย รอยโรคดูคล้ายผิวหนังอักเสบที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อนพุพอง

    โซริอาซิสชนิดแดงและเป็นเกล็ดทั่วตัว (erythrodermic psoriasis) ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้น้อยที่สุด ลักษณะเป็นผื่นแดงและมีเกล็ด คัน ปวดแสบปวดร้อน ขึ้นกระจายทั่วตัว ผู้ป่วยอาจเป็นโซริอาซิสชนิดปื้นหนามาก่อน แต่ควบคุมอาการได้ไม่ดี มักกำเริบเวลามีความเครียด เกิดบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แพ้ยา หรือติดเชื้อ หรือหยุดยาสเตียรอยด์ที่เคยกินเป็นประจำ อาจมีภาวะแทรกซ้อนแบบบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก เช่น ภาวะขาดน้ำ การติดเชื้อ เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้


โซริอาซิสชนิดแดงและเป็นเกล็ดทั่วตัว

    โซริอาซิสชนิดเกิดที่หนังศีรษะ (scalp psoriasis) พบได้ประมาณร้อยละ 50 ของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ อาจมีอาการเกิดขึ้นก่อนมีผื่นตามตัว ลักษณะเป็นผื่นแดงหนา ขอบเขตชัดเจน และมีเกล็ดเงินขึ้นตามแนวไรผม บางครั้งอาจลามมาที่หน้าผาก มักไม่มีอาการผมร่วง อาจมีอาการคัน เวลาเกาหนังศีรษะอาจมีเกล็ดหนังร่วงเกาะตามผมและไหล่ ลักษณะคล้ายรังแค โรคกลากที่ศีรษะ

    โซริอาซิสชนิดเกิดที่เล็บ (nail psoriasis) เกิดได้ทั้งที่เล็บมือเล็บเท้า มีอาการได้หลายลักษณะ เช่น มีจุดสีน้ำตาลใต้เล็บ เล็บเป็นหลุม เล็บขรุขระ เล็บแยกตัวออกจากเนื้อใต้เล็บ (onycholysis) ผิวใต้เล็บหนา (subungual keratosis) มักเกิดร่วมกับเนื้อเยื่อขอบเล็บอักเสบ (paronychia) บางครั้งอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราร่วมด้วย อาจทำให้เข้าใจว่าเป็นโรคกลากที่เล็บ โรคเชื้อราแคนดิดาที่เล็บ ในรายที่เป็นรุนแรงเนื้อเล็บจะเปื่อยยุ่ยถูกทำลาย


โซริอาซิสที่เล็บและข้อนิ้วเท้า

    ข้ออักเสบจากโซริอาซิส (psoriatic arthritis) พบได้ประมาณร้อยละ 5-15 ของผู้ป่วยโซริอาซิส ส่วนมากพบร่วมกับรอยโรคที่ผิวหนังเรื้อรัง ส่วนน้อยอาจมีอาการข้ออักเสบนำมาก่อนอาการที่ผิวหนัง มักพบที่ข้อนิ้วมือนิ้วเท้า ซึ่งมีลักษณะปวด บวม และข้อแข็ง คล้ายโรคปวดข้อรูมาตอยด์ บางรายอาจมีการอักเสบของข้อเข่า สะโพก และข้อกระดูกสันหลัง อาจเป็นเพียงข้อเดียวหรือหลายข้อพร้อมกันก็ได้ อาการข้ออักเสบอาจค่อย ๆ เป็นรุนแรงขึ้นจนข้อพิการในที่สุดก็ได้

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง แต่เนื่องจากมีรอยโรคเรื้อรังและแลดูน่าเกลียด อาจทำให้ผู้ป่วยมีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า สูญเสียความเชื่อมั่นในตนเอง และกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและการออกสังคมได้

ในรายที่มีอาการคันมาก อาจเกาจนมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

ในรายที่เป็นรุนแรง เช่น โซริอาซิสชนิดตุ่มหนองแพร่กระจายทั่วไป หรือโซริอาซิสชนิดแดงและเป็นเกล็ดทั่วตัว อาจทำให้เกิดภาวะสูญเสียน้ำและเกลือแร่ และการติดเชื้อรุนแรงได้

ในรายที่เป็นข้ออักเสบอาจทำให้ข้อพิการ

ในรายที่เป็นที่เล็บอาจทำให้เล็บพิการ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ในรายที่อาการไม่ชัดเจนอาจต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy) โดยการตัดเนื้อเยื่อผิวหนังส่งพิสูจน์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาตามชนิดและความรุนแรงของโรค ซึ่งมีแนวทางดังนี้

1. สำหรับรอยโรคที่ผิวหนัง ในรายที่เป็นน้อย มีรอยโรคไม่กี่แห่ง จะให้ทาครีมสเตียรอยด์ เช่น ครีมไตรแอมซิไนโลนอะเซโทไนด์ หรือขี้ผึ้งน้ำมันดิน หรือโคลทาร์ (coal tar) ชนิด 1-5% หรืออาจใช้ทั้ง 2 อย่างสลับกัน เพื่อป้องกันการดื้อยา

ในรายที่เป็นมากขึ้น อาจหลีกเลี่ยงการใช้ครีมสเตียรอยด์ หรือใช้ทาเฉพาะบริเวณที่เป็นปื้นหนา บางครั้งแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยอาบแดด* (ช่วงเวลา 10.00-14.00 น.) เริ่มอาบด้านละ 5-10 นาทีก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มระยะนานขึ้น จนถึงขั้นทำให้เกิดรอยแดงเรื่อ ๆ ที่ผิวหนังภายใน 24 ชั่วโมงหลังอาบแดด (ส่วนใหญ่จะอาบแดดนานประมาณ 15-20 นาที) ทำประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จะช่วยให้ผื่นยุบได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ข้อควรระวังคือ อย่าอาบแดดนานเกินไป และควรใช้ผ้าคลุมหน้าป้องกันมิให้ผิวหน้าถูกแดดมากไป บางรายอาจแพ้แดดทำให้อาการกำเริบได้

บางรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่เป็นโซริอาซิสชนิดปื้นหนา แพทย์อาจให้ผู้ป่วยทาขี้ผึ้งแอนทราลิน (anthralin ointment) พร้อมกับการอาบแดด และโรงพยาบาลขนาดใหญ่อาจใช้วิธีฉายแสงอัลตราไวโอเลตบี (UVB) แทนการอาบแดดก็ได้ ถ้าได้ผลผื่นจะยุบภายใน 3-4 สัปดาห์ ข้อควรระวัง ยานี้อาจระคายเคือง ถ้าพบอาการระคายเคืองควรหยุดยา ยานี้ห้ามใช้ทาบนใบหน้า ข้อพับ และอวัยวะเพศ

บางกรณีแพทย์อาจเลือกใช้ยาทาชนิดอื่น เช่น calcipotriene ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินดี tazarotene ซึ่งเป็นกลุ่มเรตินอยด์ (ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์) เป็นต้น โดยอาจใช้เดี่ยว ๆ หรือร่วมกับยาอื่น หรือร่วมกับการฉายแสงอัลตราไวโอเลต

นอกจากนี้จะให้การรักษาตามอาการ เช่น ถ้าผิวแห้งให้ทาด้วย petrolium liquid paraffin เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ถ้าเกล็ดหนามากให้ยาละลายขุย (เช่น ครีมยูเรียหรือกรดซาลิไซลิก) ถ้าคันให้ยาแก้แพ้ ถ้าปวดหรือมีไข้ ให้ยาแก้ปวดลดไข้ เป็นต้น

2. สำหรับรอยโรคที่หนังศีรษะ ให้ผู้ป่วยสระผมด้วยแชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำมันดิน (เช่น ทาร์แชมพู) สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ในรายที่มีขุยที่ศีรษะมาก อาจใช้โลชั่นที่เข้าสเตียรอยด์ (steroid scalp lotion) ทาวันละ 1-2 ครั้ง

3. สำหรับอาการข้ออักเสบ ให้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ

4. ในรายที่เป็นรุนแรง หรือดื้อต่อการรักษา อาจต้องใช้ยาชนิดกิน เช่น การให้กินยาซอลาเรน (psolaren) ร่วมกับการฉายแสงอัลตราไวโอเลตเอ การให้กินยากลุ่มเรตินอยด์ เมโทเทรกเซต (methotrexate) หรือไซโคลสปอรีน (cyclosporine) วิธีการรักษาเหล่านี้ควรให้แพทย์โรคผิวหนังเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผลข้างเคียงและข้อควรระวังของยาแต่ละชนิดต่าง ๆ กันไป

ในปัจจุบันมียาใหม่ มีผลข้างเคียงน้อย แต่ราคาแพง เช่น etanercept, infliximab เป็นต้น ซึ่งเป็นสารชีวภาพออกฤทธิ์ต้านอักเสบโดยยับยั้งการทำงานของลิมโฟไซต์ แพทย์อาจเลือกใช้ยากลุ่มนี้ในผู้ป่วยที่ใช้ยาอื่นไม่ได้ผล หรือมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ร้ายแรงของยาอื่น

*แสงแดดหรือแสงอัลตราไวโอเลต มีฤทธิ์ทำให้ลิมโฟไซต์ชนิด T cells ตาย ช่วยชะลอการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังลง รวมทั้งช่วยลดการเกิดเกล็ดเงิน และการอักเสบของผิวหนัง

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีผื่น ตุ่ม หรือรอยปื้นขึ้นตามผิวหนังหรือรอยพับ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโซริอาซิส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน หรือตรากตรำงานหนัก
    พยายามอย่าให้เกิดภาวะเครียด โดยการออกกำลังกาย ฝึกโยคะ ชี่กง รำมวยจีน ทำสมาธิ ทำงานอดิเรก เป็นต้น
    หลีกเลี่ยงการขีดข่วนถูกผิวหนัง
    งดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์
    ควรให้ผิวหนังได้ถูกแดด (อาบแดด) ตามคำแนะนำของแพทย์ (ผู้ที่แพ้แดดควรหลีกเลี่ยงการถูกแดด)
    หลีกเลี่ยงการกินยาหม้อที่มีสารหนู ซึ่งอาจทำให้อาการทุเลา แต่ถ้ากินติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้เป็นมะเร็งได้
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาชุด และยาลูกกลอน (ที่มียาสเตียรอยด์ที่ผสม) มากินเอง แม้ว่าจะทำให้โรคทุเลา แต่เมื่อหยุดยาก็อาจทำให้โรคกำเริบรุนแรงได้ โดยทั่วไปแพทย์จะหลีกเลี่ยงการให้สเตียรอยด์ชนิดกินแก่ผู้ป่วย เพราะกลัวโรคกำเริบหลังการหยุดยา แต่จะให้ใช้สเตียรอยด์ชนิดทาหรือฉีดเข้าเฉพาะที่


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1-2 สัปดาห์ 
    สงสัยมีภาวะแทรกซ้อน เช่น มีไข้สูง ผื่นตุ่มกลายเป็นหนอง มีผื่นตุ่มลุกลามมากขึ้น มีอาการปวดข้อ เล็บมีความผิดปกติ เป็นต้น
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ควรหาทางป้องกันไม่ให้โรคกำเริบรุนแรงด้วยการดูแลรักษากับแพทย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้โรคกำเริบ


ข้อแนะนำ

1. โรคนี้มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง โดยมีบางช่วงที่อาจหายดีเหมือนปกติ แต่สักพักหนึ่งก็กลับกำเริบขึ้นอีก บางรายอาจมีระยะสงบจากอาการนานเป็นปี ๆ แต่บางรายอาจกำเริบบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีภาวะเครียดทางร่างกายหรือจิตใจ ดังนั้นจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์คนใดคนหนึ่งอย่างต่อเนื่อง อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลบ่อย

2. โรคนี้แม้จะเป็นเรื้อรัง แต่มักจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แม้จะมีรอยโรคแลดูน่าเกลียด แต่ก็ไม่ได้เป็นโรคติดต่ออย่างโรคเชื้อรา หรือโรคเรื้อน (บางคนเรียกชื่อโรคนี้ว่า โรคเรื้อนกวาง ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคเรื้อน) สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างใกล้ชิดได้ และก็ไม่ได้เป็นโรคร้ายแบบมะเร็ง หรือเอดส์ ดังนั้นจึงควรอธิบายให้ญาติพี่น้องของผู้ป่วยและคนทั่วไปเข้าใจ จะได้ให้การดูแลและให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย อย่าแสดงความรังเกียจจนทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมีปมด้อยหรือซึมเศร้า

3. ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการและความรุนแรงแตกต่างกันไป อาจมีอาการเพียงชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือมากกว่า 1 ชนิด หรือเปลี่ยนชนิดไปมาก็ได้ บางรายอาจมีผื่นขึ้นเฉพาะที่ ไม่ลุกลามออกไป แต่บางรายอาจทวีความรุนแรงไปเรื่อย โดยทั่วไปถ้าเริ่มมีอาการครั้งแรกตอนอายุน้อย ก็มีโอกาสเกิดความรุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการเพียงเล็กน้อย สามารถรักษาด้วยการใช้ยาสเตียรอยด์ทาเป็นครั้งคราว สามารถทำงานและดำเนินชีวิตได้อย่างคนปกติทั่วไป

4. โรคนี้อาจแสดงอาการได้หลายแบบ และอาจคล้ายกับโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น กลาก โรคเชื้อราแคนดิดา ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ ผื่นพีอาร์ รังแค เป็นต้น ดังนั้นถ้าให้การดูแลรักษาโรคเหล่านี้ไม่ได้ผล ก็ควรจะนึกถึงโรคโซริอาซิส

5. โรงพยาบาลควรส่งเสริมให้กลุ่มผู้ป่วยได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในการดูแลตนเอง และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หากเป็นไปได้ควรจัดให้ผู้ป่วยรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
#15
ฉนวนกันความร้อนโรงงาน ติดตรงไหนให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทุกคนต่างรู้ดีกันอยู่แล้วว่า การติดตั้ง "ฉนวนกันความร้อนโรงงาน" เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ทุกโรงงานควรทำให้เรียบร้อย และควรทำให้เสร็จเร็วที่สุด เพราะยิ่งปล่อยให้โรงงานมีความร้อนสะสมมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน ยิ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และก่อให้เกิดบรรยากาศที่บั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานให้แย่ลงเท่านั้น

ทั้งนี้ ในการติดตั้งฉนวนกันความร้อนสำหรับโรงงานนั้น ยังมีอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ ตำแหน่งของการติดตั้งฉนวนกันความร้อน ว่าควรติดตั้งบริเวณใดบ้างภายในโรงงาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว จุดที่จำเป็นต่อการติดตั้งนั้น มีดังต่อไปนี้


1.ฉนวนกันความร้อนโรงงานบริเวณหลังคา

ถือเป็นจุดที่หลายคนมองข้าม แต่เป็นจุดสำคัญที่มีส่วนช่วยอย่างมากต่อการลดความร้อนสะสมภายในโรงงาน เพราะหลังคาโรงงานส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุเหล็กรีด หรือ เมทัลชีท ทำให้ดูดซับความร้อนได้ง่าย อีกทั้งหลังคาโรงงานยังเป็นส่วนที่อยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากที่สุด และรับแสงแดดตั้งแต่เช้าจรดเย็น

ดังนั้น หากบริเวณหลังคาโรงงานไม่มีฉนวนกันความร้อนติดตั้งรองรับไว้ จะทำให้ความร้อนจากภายนอกทะลุเข้ามาสะสมภายในโรงงานได้เป็นจำนวนมากจนก่อให้เกิดปัญหาการสูญเสียพลังงาน และปัญหาอื่น ๆ ตามมาไม่รู้จบ


2.ติดฉนวนกันความร้อนโรงงานบริเวณท่อน้ำร้อนน้ำเย็น

บริเวณท่อน้ำร้อน น้ำเย็น ท่อลำเลียงสารเคมีต่าง ๆ ภายในโรงงานนั้นถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งการติดตั้งฉนวนกันความร้อนในบริเวณนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ลดการส่งผ่านความร้อนไปยังพื้นที่อื่น ๆ ได้แล้ว ก็ยังมีส่วนช่วยในการป้องกันอุบัติเหตุจากการสัมผัสถูกท่ออุณหภูมิสูงที่อาจทำให้เกิดอันตรายได้ในขณะปฏิบัติหน้าที่ไปพร้อมกันได้ด้วย


3.ติดฉนวนกันความร้อนโรงงานบริเวณระบบปรับอากาศ

ปกติแล้วเครื่องปรับอากาศที่บ้านเรา ก็จะปล่อยความร้อนออกมาบริเวณคอมเพลเซอร์แอร์ ภายในห้องเราเย็น แต่ภายนอกห้องบริเวณคอมเพลสเซอร์แอร์จะร้อนมาก เพราะปล่อยลมร้อนออกมาตลอดเวลา เช่นกันเดียวกันกับระบบปรับอากาศของโรงงานที่ใหญ่กว่าบ้านพักอาศัยหลายเท่า ที่จะมีการปล่อยความร้อนออกมาจำนวนมาก ซึ่งหากเราไม่ติดฉนวนกันความร้อนเอาไว้ภายในบริเวณระบบปรับอากาศ ความร้อนจากการทำความเย็นจะตีกลับเข้ามาสะสมภายในโรงงานได้ จนทำให้ค่าไฟเราขึ้นโดยไม่รู้ตัว


4.ติดฉนวนกันความโรงงานบริเวณห้องเครื่องจักร

โดยส่วนใหญ่แล้วบริเวณห้องเครื่องจักร เรามักจะกังวลกันแต่เรื่องปัญหาเสียงดัง เพราะสัมผัสและรู้สึกได้ชัดเจนกว่า อีกทั้งเสียงดังจากเครื่องจักรยังดังไปรบกวนภายนอกให้เกิดการร้องเรียนได้ง่ายกว่าด้วย ในขณะที่ความร้อนในห้องเครื่องจักรนั้น มักถูกทำให้มองไม่เห็นด้วยการเปิดแอร์ เปิดเครื่องทำความเย็นที่สร้างทำให้บรรยากาศภายในห้องเครื่องจักรเย็นสบาย

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เครื่องจักรอาจปล่อยความร้อนออกมามหาศาล และกำลังเผาผลาญพลังงานกินไฟในโรงงานอยู่ การติดฉนวนกันความร้อนบริเวณห้องเครื่องจักรจึงมีส่วนสำคัญในการประหยัดพลังงาน และไม่กระจายความร้อนไปยังห้องอื่น ๆ ด้วย


จากภาพรวมทั้งหมดเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงานนั้น อาจไม่ได้มีแค่จุดเดียวที่ต้องติด แต่มีหลายจุดที่ต้องแก้ไขและวางแผนป้องกันความร้อนสะสมให้ดี ซึ่งบางโรงงานก็อาจจะไม่ได้มีปัญหาในทุกจุดอย่างที่กล่าวมาก็ได้ แต่หากจะให้ฟันธงว่าบริเวณใดส่งผลต่ออุณหภูมิความร้อนภายในโรงงานมากที่สุด คำตอบก็คือ "บริเวณหลังคาโรงงาน" เพราะเป็นหน้าด่านที่ความร้อนจะผ่านไปสู่ทุกจุดทุกห้องสำคัญทั่วทุกพื้นที่ และอาจทำให้ห้องอื่น ๆ ที่ร้อนอยู่แล้วร้อนมากขึ้นกว่าเดิมได้ง่ายดาย
#16
"สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน" สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า "การขายของมันได้จับเงินทุกวัน" นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า...จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า...การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน "มันทำได้จริง"
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด"ผลลัพธ์"กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ "เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว"

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ "เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น"
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479

#17
เครื่องมือการจัดฟัน EF LINE ต่างจากการเครื่องมือการจัดฟันเด็กแบบเหล็กจัดฟันอย่างไร

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจัดฟันในเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันที่มความผิดปกติในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเด็กไทยส่วนใหญ่มีการเกิดฟันผุมาก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง และพฤติกรรมในวัยเด็กที่อาจจะมีเข้าข่ายมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดปัญหาฟันในอนาคต ซึ่งในความเป็นจริง การเกิดความผิดปกติของการสบฟันที่เกิดกับเด็ก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตามก็สามารถเกิดได้ทั้งนั้น  ดังนั้น เด็กควรที่จะได้รับการตรวจและรักษาโดยทันตแพทย์จัดฟันตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ดีกว่าเป็นวัยรุ่น ซึ่งเด็กสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้ตั้งแต่อายุ 4-15 ปี หรือในวัยที่กำลังมีฟันแท้งอกออกมา แต่โดยทั่วไป


การจัดฟันในเด็กอายุต่ำว่า 10 ปี มักเป็นการจัดฟันบางส่วน จุดประสงค์ก็เพื่อการรักษาเฉพาะบริเวณ เพื่อป้องกันเบื้องต้น หรือช่วยลดความรุนแรงของปัญหา ซึ่งเมื่อเด็กโตพอ ก็มักจะต้องจัดฟันทั้งปากต่อไป หรือเหมาะสำหรับการจัดฟันแบบใช้เครื่องมือ EF LINE ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาฟันในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ได้อย่างดีเลยทีเดียว เพราะเนื่องจากเด็กบางคนในวัยนี้ ยังไม่สามารถดูแลตัวเองในเรื่องของการทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะยังไม่สามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์จัดฟันได้ดีเท่าที่ควร


จึงเหมาะสมที่จะเข้ารับการจัดฟันด้วยการใช้เครื่องมือ EF LINE พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก แบบ EF LINE ว่าจะมีความแตกต่างกับการจัดฟันในเด็กที่สวมใส่เครืองมือแบบติดแน่น ดังนั้น วันนี้ทางคลินิก ของเราจะมาพูดถึงข้อแตกต่างของการจัดฟันในเด้กแบบ EF LINE และการจัดฟันในเด็กแบบสวมใส่เครื่องมือแบบติดแน่น ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป้นแนวทางในการจัดสินใจพาเด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็กเพื่อแก้ไขปัญหาฟัน
 
ในปัจจุบันได้มีการศึกษาในเรื่องของทันตกรรมในเด็ก ซึ่งพบว่า กล้ามเนื้อใบหน้าและลิ้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า ดังนั้น จึงมีการออกแบบเครื่องมือเพื่อทำการปรับแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อซึ่งต้องร่วมกับการฝึกโดยการออกกำลังกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยปรับการกลืนให้ถูกต้อง โดยเครื่องมือดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า EF LINE ซึ่งเครื่องมือดังกล่าว เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ


ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต  โดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จนถึงอายุ 15 ปี โดยเครื่องมือในกลุ่มนี้มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยวกระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า เป็นต้น ซึ่งจะแตกต่างจากการจัดฟันในเด็กที่ใส่เครื่องมือแบบติดแน่น ก็คือ การจัดฟันในเด็กแบบใส่เหล็กจัดฟันนั้น ก็เหมือนกับการจัดฟันในวัยผู้ใหญ่ เพราะใช้เครื่องมือแบบเดียวกัน และมีการดูแลรักษาที่เหมือนกัน เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป เพราะเด็กในวัยนี้ จะสามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ได้ดีกว่า และจะต้องมีวิธีการดูแลรักษาที่ค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้น เครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่น จึงไม่เหมาะสมกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี เพราะยังไม่สามารถให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์ได้นั่นเอง


สำหรับใครที่อยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก รวมไปถึงด้านทันตกรรมในเด็กในด้านอื่นๆด้วย จากประสบการณ์อย่างยาวนานในวงการทันตกรรมทำให้สามารถให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาฟันในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราอยากให้เด็กทุกคนมีทัศนคติที่ดีต่อการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข
#18
  096-974-4513 บริการซักที่นอน ดูดไรฝุ่น ทำความสะอาดโซฟา ซักเบาะ ซักผ้าม่าน ซักพรม โต๊ะทำงานเป็นคราบ กำจัดไรฝุ่น คราบรา คราบเลือด คราบนม กลิ่นอับ 

 ซักทำความสะอาดเก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์ผ้า หนังทุกชนิด
กำจัดไรฝุ่นที่นอน คราบเชื้อรา เชื้อโรค กำจัดกลิ่นอับ
บริการถึงที่ ประสบการณ์กว่า 1O ปี การันตีผลงาน!!

เพจ : https://www.facebook.com/wdcleaningservices789
ทักแชท--> https://lin.ee/uG55eFu
ไลน์ @wd_services
โทร 096-974-4513

บริการทั่วกรุงเทพ-ต่างจังหวัด


#19
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
"NEWTECH INSULATION" ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
"เพราะเรา...เข้าใจเรื่องเสียง"


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: [email protected]
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/

#20
ปล่อยรถผู้บริหาร Ferrari California T ปี 2016 ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ


เฟอร์รารี่ Ferrari California T ปี 2014
Ferrari California T เป็นผลงานที่วิเศษที่สุดของสายพันธุ์เฟอร์รารี่ ที่มาพร้อมกับหลังคาแข็งพับได้ (RHT) และโครงสร้าง 2+ รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆทำให้รถรุ่นนี้เป็นรถอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนได้สูงสุดตามความต้องการในการใช้งาน การผสมผสานอย่างลงตัวของความปราดเปรียวและและความสง่างาม Ferrari California T ขับเคลื่อนด้วยระบบหัวฉีดตรงจากเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ V8 ขนาด 3,855 ซีซี. ที่ให้พลังแรงม้าสูงถึง 560 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที ส่งผลให้เกิดพลังงานถึง 145 แรงม้า/ลิตร ซึ่งสูงสุดในกลุ่มนี้ แรงบิดสูงสุด 755 นิวตันเมตร ในเกียร์ 7 โดยมีอัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และส่งผลถึงอัตราเร่งความเร็วพิเศษ แม้ในเกียร์ที่สูงขึ้น และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

Ferrari California T ระบบควบคุมใหม่ล่าสุดของ F1-Trac ซึ่งรับประกันอัตราเร่งสูงสุดและเบรกคาร์บอนเซรามิก CCM3 กับดิสก์เบรกใหม่ ร่วมกับระบบ ESP Premium 8.0 ซึ่งควบคุมการเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง โดยให้ระยะหยุดสั้นมาก จากความเร็ว 100-0 กม./ชม. ในระยะทางเพียง 34 เมตร การผสมผสานสถาปัตยกรรมที่ชัดเจนแน่วแน่ของแคลิฟอร์เนีย ที กับการควบคุมที่ทรงประสิทธิภาพ และเครื่องยนต์ใหม่นั้นรับประกันความสนุกในการขับขี่ ที่มอบทั้งความท้าทายและสภาพการขับขี่ที่ผ่อนคลายมากขึ้น


หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 17 มี.ค. - 31 มี.ค. 2568

ราคาพิเศษ 12,900,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ข้อมูลทั่วไป

เครื่องยนต์                     V8 DOHC Turbo
ขนาดเครื่องยนต์ (CC)      3,855 CC
กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)   560 แรงม้า
ระบบเกียร์                     เกียร์ออโต้ 7AT
รูปแบบเกียร์                   F1 Dual Clutch
ระบบเบรค ABS              มี (พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD)
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง      เบนซิน 95
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)       N/A
ระบบจ่ายน้ำมัน               Direct Petrol Injection
น้ำหนักตัวรถ                    -
ประเภทยางรถยนต์             -
ขนาดล้อ (นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน             ขับเคลื่อนล้อหลัง